บริการของเรา

เครื่องหมายการค้า

ดูเพิ่มเติม

ลิขสิทธิ์

ดูเพิ่มเติม

สิทธบัตร

ดูเพิ่มเติม

บริษัท

ดูเพิ่มเติม

ดดีความ

ดูเพิ่มเติม

การรับรองเอกสาร

ดูเพิ่มเติม

สัญญา

ดูเพิ่มเติม

ปรึกษาฟรี

ดูเพิ่มเติม

เครื่องหมายการค้า

ค่าวิชาชีพทนายความ:

จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ต้องประเมินถึงโอกาสที่จะจดผ่านตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าฯ โดยจะมีข้อพิจารณาว่าต้องเป็นเครื่องหมาย ดังต่อไปนี้

  1. เครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะบ่งเฉพาะ (ตามมาตรา 7) กล่าวคือ สาธารณชนต้องสามารถแยกแยะความเป็นเจ้าของได้ หากเป็นคำทั่วไปมีความหมายตามพจนานุกรมหรือเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าจะไม่ถือว่าเป็นเครื่องหมายที่มีลักษณะบ่งเฉพาะตามมาตรา 7 ต้องห้ามรับจดทะเบียน เช่น หากจดทะเบียนเครื่องหมายการคำว่า Moist เกี่ยวกับครีมทาผิว จะต้องห้ามรับจดทะเบียนตามมาตรา 7 เพราะคำว่า Moist แปลว่า ชุ่มชื้น เปียก หมาด หากนำมาใช้กับสินค้าประเภทครีมทาผิว ย่อมทำให้สาธารณชนทราบหรือเข้าใจได้ว่า สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า Moist เป็นสินค้าที่ใช้แล้วทำให้ผิวชุ่มชื้น เป็นคำที่เล็งถึงลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้าโดยตรง (ตามแนวคำสั่งของนายทะเบียน)
  2. เครื่องหมายการค้าที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม (ตามมาตรา 8) กล่าวคือ ในเครื่องหมายการค้าต้องไม่มีเครื่องหมายต้องห้าม เช่น ตราแผ่นดิน ธงชาติหรือเครื่องหมายประจำชาติไทยและต่างประเทศ พระปรมาภิไธย พระบรมฉายาลักษณ์ คำหรือข้อความที่แสดงถึงพระมหากษัตริย์ เครื่องหมายราชการ เครื่องหมายกาชาด นามกาชาด หรือกาเจนีวา เครื่องหมายที่ขัดต่อความงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฯลฯ เป็นต้น โดยเครื่องหมายต้องห้ามตามมาตรา 8 มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เพราะเครื่องหมายที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ต้องตีความด้วยความระมัดระวัง ซึ่งจะมีแนวคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าและแนวคำพิพากษาศาลฎีกาวางหลักไว้ ดังนั้น กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  3. เครื่องหมายการค้าที่ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว (ตามมาตรา 13) กล่าวคือ ก่อนจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ทางเราจะตรวจสอบความเหมือนคล้ายให้ฟรี! ว่าเครื่องหมายที่ขอจดทะเบียนนั้นไปเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วหรือไม่ เพราะหากตรวจพบว่าเหมือนบุคคลอื่นมีโอกาสที่จะจดไม่ผ่าน ต้องปรับเปลี่ยนคำหรือรูปแบบเพื่อนำมาตรวจสอบความเหมือนคล้ายอีกครั้ง

เครื่องหมายการค้าที่ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้ก่อน (ตามมาตรา 20) กล่าวคือ ก่อนจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ทางเราจะตรวจสอบความเหมือนคล้ายให้ฟรี! ว่าเครื่องหมายที่ขอจดทะเบียนนั้นไปเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้ก่อนหรือไม่ เพราะหากตรวจพบว่าเหมือนบุคคลอื่นมีโอกาสที่จะจดไม่ผ่าน ต้องปรับเปลี่ยนคำหรือรูปแบบเพื่อนำมาตรวจสอบความเหมือนคล้ายอีกครั้ง ข้อแตกต่างของมาตรา 13 และมาตรา 20 คือ เป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วกับเครื่องหมายการค้าที่ยังไม่ได้รับจดทะเบียนแต่ได้ยื่นคำขอไว้ก่อน แต่สาระสำคัญอย่างเดียวกัน คือ เป็นเครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกันหรือไม่

ลิขสิทธิ์

ค่าวิชาชีพทนายความ (คิดราคาเหมา) มีไม่ค่าธรรมเนียม:

งานอันมีลิขสิทธิ์ ไม่จำต้องยื่นคำขอจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ เพราะกฎหมายคุ้มครองนับแต่สร้างสรรค์ผลงานขึ้นมา โดยงานสร้างสรรค์ที่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติลิสิทธิ์ฯ มีด้วยกัน 9 ประเภท คือ วรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียงแพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ ของผู้สร้างสรรค์ ไม่ว่างานดังกล่าวจะแสดงออกโดยวิธีหรือรูปแบบอย่างใด เช่น ลายปัก ลายถัก แต่อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายจะคุ้มครองทันทีนับแต่วันที่ได้สร้างสรรค์ผลงานก็ตาม แต่ในความเป็นจริงก็ยากที่จะพิสูจน์ว่าได้มีการสร้างสรรค์ขึ้นมาเมื่อใด หากเกิดข้อพิพาททางศาลจะใช้หลักฐานอะไรในการพิสูจน์สิทธิ ดังนั้น หลายคนจึงนิยมจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์เพื่อป้องกันการเกิดข้อพิพาทหรือป้องกันการถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์

สิทธิบัตร

ค่าวิชาชีพทนายความ:

สิทธิบัตรมีด้วยกันหลายประเภท ดังนี้

สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ – เป็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่ให้แก่การออกแบบรูปร่างภายนอกของแบบผลิตภัณฑ์หรือองค์ประกอบของลวดลายหรือสีของแบบผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากเดิมและต้องเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งสามารถผลิตได้ในเชิงอุตสาหกรรมและหัตกรรม เช่น การออกแบบของเล่น การออกแบบหลอดยาดม หรือการออกแบบรถยนต์ เป็นต้น

สิทธิบัตรการประดิษฐ์ – เป็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่ให้แก่การประดิษฐ์คิดค้นเกี่ยวกับกลไกล โครงสร้าง ส่วนประกอบของสิ่งของเครื่องใช้ เช่น กลไกลของกล้องถ่ายรูป กลไกลของเครื่องยนต์ ยารักษาโรค เป็นต้น หรือการคิดค้นกรรมวิธีในการผลิตสิ่งของ เช่น วิธีการผลิตสินค้า วิธีการในการเก็บรักษาพืชผักผลไม้ไม่ให้เน่าเสียเร็วเกินไป เป็นต้น โดยการประดิษฐ์คิดค้นดังกล่าวสามารถแก้ไขปัญหาทางเทคนิคที่บุคคลอื่นไม่สามารถคิดขึ้นหรือไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้โดยง่าย เรียกง่าย ๆ ว่าต้องมีขั้นการประดิษฐ์ที่สูง

อนุสิทธิบัตร – เป็นการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่ให้แก่การประดิษฐ์คิดค้นเช่นเดียวกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ แต่แตกต่างกันตรงที่การประดิษฐ์คิดค้นไม่มีลักษณะซับซ้อน ไม่จำต้องมีขั้นการประดิษฐ์ที่สูง

โดยสาระสำคัญของทั้ง สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ สิทธิบัตรการประดิษฐ์ และอนุสิทธิบัตร คือ ต้องมีความใหม่และสามารถประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมได้

จดทะเบียนบริษัท / หจก.

การจดบริษัทจำกัด

  • ชื่อบริษัท
  • ทุนจดทะเบียน
  • ชื่อผู้ถือหุ้น (ไม่ต่ำกว่า 2 คน) และให้ใครถือกี่หุ้น
  • ชื่อกรรมการ
  • อำนาจกรรมการ กี่คน ลงลายมือชื่อเฉย ๆ หรือ ลงลายมือชื่อและประทับตราบริษัท
  • ประกอบธุรกิจอะไร
  • เบอร์โทร ที่อยู่ อีเมล ผู้ถือหุ้นและกรรมการทุกคน
  • ไฟล์ตราประทับบริษัท (ถ้ามี)
  • แผนที่ตั้งบริษัทคร่าวๆ
  • สำเนาบัตรปชช.ผู้ถือหุ้นทุกคน
  • สำเนาบัตรปชช.กรรมการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน (เอาหน้าแรก) ที่บอกที่อยู่ที่ตั้งบริษัท
  • ข้อบังคับบริษัท (ถ้ามี)
  • หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ประกอบกิจการ (ถ้ามี)

ค่าวิชาชีพทนายความ 7,500 บาท แถมฟรี

  • ไฟล์สมุดหุ้น
  • ไฟล์ใบหุ้น
  • ตราประทับบริษัทหมึกในตัว

การจดห้างหุ้นส่วน จํากัด

  • ชื่อหจก.
  • ทุนจดทะเบียน
  • ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ (ไม่ต่ำกว่า 2 คน) และให้ใครถือกี่หุ้น
  • ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ
  • อำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการ กี่คนก็ได้ ลงลายมือชื่อเฉย ๆ หรือ ลงลายมือชื่อและประทับตรา
  • ประกอบธุรกิจอะไร
  • เบอร์โทร ที่อยู่ อีเมล หุ้นส่วนทุกคน
  • ไฟล์ตราประทับ (ถ้ามี)
  • แผนที่ตั้งหจก.คร่าวๆ
  • สำเนาบัตรประชาชนหุ้นส่วนทุกคน
  • สำเนาบัตรประชาชนหุ้นส่วนผู้จัดการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน (เอาหน้าแรก) ที่บอกที่อยู่ที่ตั้ง
  • หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ประกอบกิจการ (ถ้ามี)

ค่าวิชาชีพทนายความ 6,000 บาท แถมฟรี

  • ไฟล์สมุดหุ้น
  • ไฟล์ใบหุ้น
  • ตราประทับหมึกในตัว

จดบริษัทดีอย่างไร ?
มีข้อดีข้อเสียต่างจากการประกอบธุรกิจในนามบุคคลธรรมดาอย่างไร
จ่ายภาษีน้อยกว่าบุคคลธรรมดา (มากกกกก…) กล่าวคือ จ่ายน้อยกว่าในอัตราที่เป็น % ของกำไร

  • กรณีบุคคลธรรมดา ถ้ามีเงินเดือนต่อเดือนไม่ถึง 26,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี
    แต่ถ้ามากกว่านั้นก็จะเสียตามสัดส่วนตั้งแต่ 5% ไปจนถึง 35% เรียกง่าย ๆ ว่า รายได้มากก็จ่ายภาษีมาก
  • กรณีบริษัทหรือนิติบุคคล จะเสียภาษีดังนี้
    กำไรสุทธิ ไม่เกิน 300,000 บาท ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
    กำไรสุทธิ เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 3,000,000 บาท เสียภาษี 15 %
    กำไรสุทธิ เกิน 3,000,000 บาท ขึ้นไป เสียภาษี 20%

**จะเห็นได้ว่า การประกอบธุรกิจในรูปแบบบริษัทเสียภาษีน้อยกว่าบุคคลธรรมดาในอัตราสูงสุด 15% (35% – 20%)**

เงินทุน สินเชื่อ ดอดเบี้ยต่ำ เมื่อไปขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ SMEs แล้ว ก็จะมีสิทธิดี ๆ เหล่านี้มากกว่าบุคคลธรรมดาเช่น ด้านสินเชื่อ, การร่วมลงทุน, การค้ำประกันสินเชื่อ, การให้เงินอุดหนุน

สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ รายจ่ายส่วนตัว หรือ รายจ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ห้ามนำมาหักถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ จะเป็น (รายจ่ายต้องห้าม) ส่วนรายจ่ายอะไรที่จ่ายหรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่มีไว้เพื่อไปทำ “กำไร” ให้บริษัทในส่วนนี้สามารถนำมาหักได้

รัฐสนับสนุนทั้งเงินทุนและความรู้ เช่น การพัฒนาผู้ประกอบการใหม่, การตลาด, หรือการอบรมสัมนาต่าง ๆ ที่รัฐสนับสนุนให้

มีความน่าเชื่อถือ เมื่อเราเป็นนิติบุคคลแล้ว เวลาจะไปติดต่อกับ Supplier หรือ Buyer (ลูกค้า) ก็จะมีความน่าเชื่อถือกว่าที่เราไปติดต่อในนามบุคคลธรรมดา ลูกค้ามั่นใจว่าเรามีตัวตนไม่โกงแน่ หรือถ้าเราโกง ก็มีเอกสารหลักฐานในการติดตามชัดเจน

ขยายตลาดง่าย ในบางครั้ง กรณีที่เราค้าขายสินค้า อาจจะมีลูกค้าจากต่างประเทศสนใจเข้ามาขอซื้อสินค้าจำนวนมาก ๆ จากเราเพื่อไปขายต่อในต่างประเทศ ถ้าเราไม่ได้จดทะเบียนในนามบริษัท จะทำให้การค้าขายเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะจะมีความเกี่ยวข้องทั้งในเรื่องความเชื่อใจ การส่งสินค้า กราจ่ายเงิน การทำเอกสารต่าง ๆ ในนามบุคคลธรรมดาจะยากมาก หรือบางครั้งบุคคลธรรมดา ไม่ได้รับอนุญาต ให้ประกอบกิจการบางอย่างอีกด้วย ฉะนั้น หากเราไม่ได้จะทะเบียนบริษัท เราอาจจะพลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ได้

ไม่พลาดเรื่องสิทธิประโยชน์ ในยุคปัจจุบัน รัฐบาลให้ความสำคัญกับ SMEs และ Startups เป็นอย่างมากมีมาตรการสนับสนุนต่าง ๆเป็นอย่างมาก เช่นส่งเสริมให้ส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศ โดยรัฐช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย เป็นต้น หากเราทำธุรกิจโดยไม่ได้ทำในรูปแบบบริษัท เราจะเสียโอกาสตรงนี้ไปได้

สามารถติดตามความยั่งยืนของธุรกิจได้ กล่าวคือ ไม่ว่าเราจะประกอบธุรกิจมานานแค่ไหน ก็สามารถเช็คความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงย้อนหลังได้ตลอด เพราะมีเอกสารหลักฐานชัดเจนสามารถตรวจสอบได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ ทั้งยังสามารถใช้อ้างอิงในเรื่องของการจดทะเบียนก่อนหลังได้หากมีข้อพิพาทกรณีที่คนมาเลียนแบบธุรกิจของเรา

คดีความ

ค่าวิชาชีพทนายความคดีแพ่งและคดีอาญา ในอัตราเริ่มต้น 30,000 – 60,000 บาท (โดยจะต้องพิจารณาเป็นรายคดีไปเพราะเนื้อหาแต่ละคดีมีความยากและคามซับซ้อนแตกต่างกัน ดังนั้น กรุณาติดต่อเราเพื่อต่อรองและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม)

การดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา ควรมีทนายความคอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำ ทางเราพร้อมให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาเพื่อประโยชน์สูงสุดของท่าน เพราะเรามีทนายความที่มีความเชี่ยวชาญหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดังนั้น หากท่านมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาลไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาหรือไม่ว่าจะเป็นคดีประเภทใดก็ตาม โปรดนึกถึงเราและติดต่อเราเป็นคนแรก เพื่อที่เราจะช่วยท่านหาทางออกและนำประโยชน์สุงสุดมาให้กับท่าน

การรับรองเอกสาร

ค่าวิชาชีพทนายความ: หน้าละ 1,500 บาท มากกว่า 10 หน้า ลด 10%

การรับรองเอกสารนั้น เป็นการนำเอกสารมารับรอง (Notary Public) เช่น รับรองความถูกต้อง รับรองสำเนาถูกต้อง รับรองลายมือชื่อ รับรองคำแปล รับรองคำแปลเอกสาร รับรองตำแหน่งหน้าที่ของกรรมการบริษัท ซึ่งรับรองโดยทนายความผู้ได้รับอนุญาตให้รับรองเอกสารได้ (Notarial Service Attorney) เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปใช้ทำธุรกิจในต่างประเทศต่อไป

 

สัญญา

สัญญามีด้วยกันหลายประเภท แตกต่างกันไปตามประเภทธุรกิจ เช่น สัญญาซื้อขาย สัญญาแฟรนไชส์ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิทางเครื่องหมายการค้า สัญญาเช่าซื้อ สัญญาจ้างผลิตระหว่างผู้ผลิตกับโรงงาน สัญญาโอนลิขสิทธิ์ สัญญา Fulfillment สัญญาฝ่ายขาย สัญญาร่วมลงทุน (Joint venture) เป็นต้น โดยเรามีความเชี่ยวชาญด้านการจัดทำสัญญาทุกประเภท

สัญญาที่อาจจะไม่พบบ่อยในทางธุรกิจทางเราก็เคยได้รับการใช้บริการ เช่น สัญญาเช่าสินสอด ถามว่าเป็นสัญญาที่มีความซับซ้อนหรือไม่ ก็อาจจะไม่ถึงขั้นซับซ้อน แต่หากปรากฏว่า พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่รับทราบในสัญญานี้ ก็อาจจะเกิดปัญหาใหญ่โตขึ้นมาได้ เพราะการจะจัดทำสัญญาดังกล่าวต้องพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย มิฉะนั้น อาจจะเกิดเป็นข้อพิพาทขึ้นได้

ปรึกษาฟรี

บริษัท สำนักงานกฎหมาย ดีดีเวสส์ จำกัด พร้อมเข้าใจผู้ประกอบการทุกท่านในการเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ดังนั้น หากท่านต้องการปรึกษาข้อกฎหมายเบื้องต้นสามารถติดต่อสอบถามได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และหากท่านประทับใจในการให้บริการของเรา ได้โปรดนึกถึงเราเป็นเจ้าแรกในการให้บริการด้านกฎหมาย